บทความนี้เหมาะท่านที่ต้องการจะเดินระบบรดน้ำต้นไม้ด้วยตัวเอง
ควรศึกษาก่อนเริ่มซื้ออุปกรณ์ เเละ เริ่มลงมือทำ เเนะนำให้เริ่มทำไปทีละนิด เเล้วค่อยเพิ่มขยายตามเเรงดันน้ำที่มี
บทความนี้จะเป็นสรุป เกริ่นนำ ให้พอเข้าใจภาพรวม เงื่อนไข คราวๆ
ส่วนประเด็นปลีกย่ย ที่น่าสนใจ เเละ จะมี Link อธิบายอย่างละเอียดสำหรับเรื่องนั้นๆอีกทีนะครับ
Note :
ทางร้านยังไม่รับติดตั้ง เเละ ออกเเบบระบบน้ำ
การออกเเบบระบบน้ำที่ดี ควรจะดูหน้างานประกอบ
เพราะถ้าออกเเบบไปเเล้วติดเงื่อนไข ต้องออกเเบบใหม่จะยิ่งสิ้นเปลือง
หากไม่สะดวกวางระบบเอง ทางร้านเเนะนำหาเจ้าที่อยู่ในพื้นที่
ที่สามารถเข้าไปดูหน้างานเเล้วประเมินได้ จะดีที่สุดครับ
"บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของ WaterTimerReview.com
ไม่อนุญาตให้ทำการคัดลอกไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า
เเต่ยินดีให้เเชร์ข้อมูล เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางการศึกษา"
---
การเดินระบบรดน้ำ ง่าย เเละ ไวที่สุด คือ จ้างคนเข้ามาทำให้ ...
ท่านที่ไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย สามารถเลือกทางนี้ได้เลยครับ "ง่าย เร็ว สบาย" ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
สำหรับท่านที่ต้องการหาช่างเข้ามาจัดการให้ ผมเเนะนำ 2อย่าง
1. ดูประสบการณ์ ผลงาน เเละ การรับประกันผลงาน ของทีมช่าง
2. อ่านบทความนี้ จะทำให้ท่านเข้าใจ เเละ คุยกับช่างได้ง่ายขึ้นครับ ถ้าคุณอธิบายช่างชัดเจน ความผิดพลาดน้อยงานเสร็จไว ประหยัดค่าใช้จ่ายไปอีกทาง
เเต่ปัญหาที่มักพบของการจ้างช่างเดินระบบรดน้ำ คือ ราคา ซึ่งมันก็มีเหตุผลในตัวของมัน
สำหรับบ้านขนาด 60ตรว ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์
ตีเฉพาะค่าเเรงช่างระดับทั่วไปก็ตกประมาณ 5,000 - 10,000 บาท (เเล้วเเต่ประสบการณ์ / พื้นที่ / ระยะเวลาติดตั้ง)
ถ้าถามว่าราคานี้เเพงมั้ย บอกเลยว่า ไม่เเพงครับ เพราะราคานี้หากช่างวางเเผนไม่ดี
เจอปัญหาหน้างาน ก็ขาดทุนได้เหมือนกัน
ลองคิดเล่นๆ กว่าผู้รับเหมา หรือ ช่างจะได้งาน เค้าต้องทำอะไรบ้าง
เข้ามาประเมินหน้างาน มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ปริมาณน้ำ เเรงดันน้ำ ปัจจัยเเวดล้อม
พูดคุย อธิบาย เพื่อนำข้อมูลไปออกเเบบ เขียนเเบบ
ประเมินอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ตีราคา ใช้เวลาประมาณ 2-3วัน
โดยทั้งหมดที่ทำมาข้างต้นคือ ยังไม่รู้ว่าจะได้งานรึเปล่า
หลังจากที่ลูกค้าตอบตกลงเเล้ว
ก่อนเริ่มงาน ช่างก็ต้องใช้เวลา 1-2 วันในการหาซื้ออุปกรณ์
โดยปกติ ช่างจะซื้ออุปกรณ์เผื่อ เพราะหากอุปกรณ์ไม่พอ หรือ มีปัญหา
ช่างต้องเสียเวลาไปซื้ออีกรอบ เเต่ถ้าสั่งอุปกรณ์ เผื่อมากเกิน ทุนก็จมอีก
บ้านหลังหนึ่ง(60-100ตรม) ใช้เวลาเข้าทำประมาณ 2-3 วัน
ช่างพาคนงานมาช่วยปรับพื้นที่ ขุด เจาะ ติดตั้ง
โดยใช้คนประมาณ 2-3 คน ต่อวัน เเล้วเเต่เนื้องาน เเละ ความยากง่าย
โดยระหว่างวันที่คนงานเข้า
ผู้รับเหมาะจะเเวะเข้ามาเพื่อตรวจงาน เเละ พูดคุยกับเจ้าของบ้าน
มากกว่า70% เจ้าของบ้านมักขอเปลี่ยนรูปเเบบหลังจากเริ่มงาน
ก่อนส่งมอบงาน ผู้รับเหมาต้องตรวจสอบระบบทั้งหมด
เช็คหัวพ่น เช็คการรั่วซืมของท่อ เช็คอุปกรณ์ต่างๆ
หากสินค้าตัวไหนมีปัญหา ก็ต้องทำการเปลี่ยนให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบ
ทำการปรับคำนวณการรดน้ำ ในเเต่ละโซน ให้เหมาะสมกับพืช เเละ ดิน
โดยต้องสอดคล้องกับ ปริมาณน้ำ เเละ เเรงดันที่มี
ตรงนี้ก็ต้องอาศัย ความรู้ เเละ ประสบการณ์ของช่าง
ตรวจสอบเรียบร้อย ก่อนส่งมอบงาน ต้องอธิบาย เเละ สอนการตั้งค่า(ถ้ามีระบบควบคุมการจ่ายน้ำ)
เเจ้งปัญหาที่อาจจะพบ เเละ วิธีการเเก้ปัญหาเบื้องต้น
หลังจากส่งมอบงานเเล้ว หากสินค้ามีปัญหา
ส่วนใหญ่ผู้รับเหมาะจะมีการรับประกันผลงาน
หากมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับอุปกรณ์ ผู้รับเหมาะก็จะเข้ามาดูเเลให้
รวมๆเเล้ว กว่าช่างจะปิดได้หนึ่งงาน ช่างต้องใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ สำหรับบ้าน 60ตรว
---
note : หากคุณต้องการจ้าง ลองเเจ้งพื้นที่คราวๆ พร้อมกับความต้องการต่างๆ เพื่อขอราคาให้ช่างประเมินคราวๆก่อนได้ หลังจากที่คุณโอเคกับราคาประเมิน คุณค่อยขอให้ช่างเข้ามาดูหน้างานเพื่อน ออกเเบบ วางระบบ เเละ ยืนยันราคาให้อีกที
ขั้นตอนขอเข้ามาประเมินหน้างาน อาจจะมีมัดจำเล็กน้อย ถือเป็นค่าน้ำมันกับค่าเสียเวลา
หากเซ็นสัญญาได้ ก็จะเอาไปหักลบตอนส่งมอบงาน(โดยทั่วไป 1000-2000บาท)
การวางระบบที่ดี ช่างจะเข้ามาดูพื้นที่ พูดคุยความต้องการ เพื่อความชัดเจนในการออกเเบบ จะได้ไม่ต้องมีการปรับเเก้กันทีหลัง
---
เเต่สำหรับท่านที่อยากจะลองเดินระบบเอง
สำหรับมือใหม่ เเนะนำ ศึกษาข้อมูลก่อน ว่าการเดินระบบต้องดูอะไรบ้าง เเละ เราอยากได้เเบบไหน
เเล้วเเบบที่เราอยากได้ ติดเงื่อนไขอะไรรึเปล่า วางเเผนให้เรียบร้อยก่อนเริ่มงาน
เริ่มจากทำไปทีละนิด ระบบน้ำสามารถต่อขยายเพิ่มเติมได้
ถ้าพอจะมีเวลา เเรงยังมี มันก็ไม่ได้ยาก เเนะนำให้เริ่มไปทีละจุด เเบ่งโซนเเล้วค่อยๆขยาย เมื่อมีความมั่นใจมากขึ้น
ข้อดีของการวางระบบเอง
- เข้าใจระบบเอง ถ้ามีปัญหาเเก้ไขได้เอง ไม่ต้องเรียกช่าง
- อนาคต อยากเพิ่มเติม ปรับเเต่ง ก็ทำได้เอง
- ประหยัดไปได้เยอะมาก เพราะค่าเเรงช่างทุกวันนี้ 450-500 บาท ต่อวัน
- ภูมิใจ ผลงานของเราเอง
ข้อเสีย
- เสียเวลา ใช้เวลานานสำหรับการเริ่มทำครั้งเเรก
- ผลลัพธ์อาจออกไม่สมบูรณ์ เหมือนจ้างช่างมาทำ
- ช่วงเเรก อุปกรณ์อาจจะเสียหาย สิ้นเปลือง
----
คำเเนะนำก่อนเริ่มที่จะวางระบบรดน้ำต้นไม้สำหรับบ้านเรือนด้วยตัวเอง
นิยามของคำว่าบ้านเรือนในที่นี้ :
- ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 100 ตรว
- เดินท่อความยาวไม่ 20-30 เมตร ต่อโซน ต่อเส้น (รอบรั้วบ้าน)
- มีน้ำประปา หรือ มีถังพักน้ำ เเละ ปั๊มน้ำ
ก่อนที่จะวางระบบน้ำ เราต้องเข้าใจเงื่อนไข ของอุปกรณ์ที่จะใช้ก่อน ว่ามันต้องการเงื่อนไขอะไรบ้าง
หลักๆที่สำคัญ ข้อมูลที่ต้องรู้เลย คือ
1. เเรงดันน้ำ
2. ปริมาณน้ำ
3. เงื่อนไขของอุปกรณ์ที่เอามาใช้
หน่วยที่วัดเเรงดันมีหลายหน่วย เเต่ทางร้านจะใช้หน่วย บาร์(Bar) เป็นหลักนะครับ
1 บาร์ คือน้ำที่มีเเรงดันที่จะส่งน้ำสูงได้ 10 เมตร
จะรู้ได้ยังไงว่าน้ำที่เราใช้ มีเเรงดันเท่าไร = ติดเกจวัดเเรงดันครับ ชัวร์เเน่นอน
ราคาไม่เเพง คุ้มค่า เเละ ควรค่าต่อการติด ทุกบ้านควรมีเลย อันนี้เเนะนำครับ
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตั้งเกจวัดเเรงดัน ได้ที่ : www.watertimerreview.com/b/28
เเต่ถ้าไม่ได้ติดเกจวัดเเรงดัน อาจจะอ้างอิง เเรงดันน้ำประปาทั่วไปก็ได้ครับ
เเรงดันน้ำประปาทั่วไปจะอยู่ที่ 1 - 1.5bar (อันนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ เเละ ช่วงเวลาการใช้น้ำด้วย)
ถ้าเราอยู่ใกล้หอจ่ายน้ำ เเรงดันก็จะมาก เเต่ถ้าอยู่ไกล หรือ ปลายสาย เเรงดันน้ำเเละประมาณ์ก็ลดลง
อย่างในรูปนี้ไปถ่ายมาให้ดูเลยคือ เเรงดันที่ส่งออกจากหอจ่ายอยู่ที่ 1.8 bar(เเรงดันประมาณ ปั๊มบ้าน 150W)
ถ้าใครบ้านอยู่ใกล้หอจ่าย เป็นบ้านชั้นเดียวนี้สบายเลย ไม่ต้องติดปั๊มเพิ่มน้ำก็เเรงสะใจ
หรือ หากติดปั๊มน้ำอัตโนมัติที่เราใช้อยู่ ก็ได้ โดยทั่วไปเเรงดันจะอยู่ที่ 2-3bar ไม่เกินนี้ครับ
ลองดูปั๊มที่ใช้ ปกติจะมีบอกว่าสวิสต์เเรงดันเปิดเมื่อเเรงดันน้ำน้อยกว่าเท่าไร เเละ ปิดเมื่อเเรงดันในท่อมีเท่าไร
ปั๊มบ้านส่วนใหญ่พวกนี้จะตัดเเรงดันไม่เกิน 3 bar เพื่อป้องกันไม่ให้ท่อน้ำเสียหาย เวลาเราเปิดปิดน้ำจะมีเเรงกระเเทก
ถ้าเเรงดันมากไป ก็จะทำให้ท่อโดยเฉพาะข้อต่อรั่วซึมได้
ส่วนปริมาณน้ำ จะใช้หน่วย ลิตร ต่อ ชั่วโมง/นาที เป็นหลักครับ
---
เรื่องที่มือใหม่มักจะพบปัญหาในการวางระบบรดน้ำ
1. ขนาดของอุปกรณ์ ศัพท์ช่าง ปัญหาคือเเต่ละสำนักเรียกไม่เหมือนกัน บางทีเรียกหุน หลายที่เรียกนิ้ว
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : www.watertimerreview.com/b/37) บางครั้งเรียกเหมือนกัน เเต่เเต่ละยี่ห้อก็ไม่เท่ากันอีก
ส่วนตอนซื้ออุปกรณ์ถ้าไม่รู้จริงๆว่าขนาดเท่าไร(ปกติจะมีบอกข้างๆท่อ) เเนะนำถ้าถอดได้ ถอดไปเทียบตอนซื้อ ชัวร์ เเน่นอนที่สุด เเต่ถ้าถอดไม่ได้ เเล้วไม่เเน่ใจซื้อมาเผื่อเลยครับ ของมันไม่ได้เเพงมาก ซื้อมาเผื่อ เสียหาย สำรองไว้ดีกว่าต้องกลับไปซื้ออีกรอบ เปลืองค่าเดินทาง เสียเวลา
2. การเทียบขนาดท่อ PE กับท่อ PVC ท่อ PE มักใช้หน่วย มิลลิเมตร เเต่ท่อPVC จะเรียก หุน หรือ นิ้ว
ถ้าจะต่อท่อ PVC ไป PE ปกติจะมีเกลียวหางปลาให้ ก็เลือกซื้อขนาดให้ถูกต้องทั้ง2ฝั่งก็เรียบร้อยครับต่อกันได้ ไม่มีปัญหา
(Credit : รูปภาพจาก Super Product)
3. เเรงดันน้ำ มีหลายหน่วยมาก วิธีง่ายที่สุดคือ เข้า Google เเล้วพิมพ์หน่วยที่เราต้องการเเปลง จบ
4. ขนาดของอุปกรณ์ ไม่พอดีกัน อันนี้เเนะนำให้ซื้อยี่ห้อเดียวกัน หรือ หากจำเป็นต้องซื้อเเยก ควรเอาไปเทียบเลยครับ
เเนะนำยี่ห้อมมาตราฐานนะครับ โดยเฉพาะท่อPVC เเนะนำ SCG ท่อน้ำไทย ตราช้าง เเพงหน่อย เเต่ไม่มีปัญหาเรื่องเกลียวไม่มาตรฐานต่อเเล้วมีรั่วซึม ส่วนท่อ PE ดูราคาเเล้วอย่าลืมดูคุณภาพด้วยนะครับ บางเจ้าลักไก่ทำคาดส้มมา เเต่บางเฉียบกว่าคาดขาวบางยี่ห้ออีก
5. เรื่องค่าสูญเสียในระบบท่อ(Head Loss) อันนี้ไม่ขอลงรายละเอียดนะครับ
สรุปสั้นๆคือ
- ท่อยิ่งเล็ก ค่าสูญเสียในระบบยิ่งเยอะ
- ท่อยิ่งยาว ค่าสูญเสียในระบบก็มากตามระยะ
- เลือกท่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้ประหยัดที่สุด
6. การเลือกปั๊มน้ำ ให้ดูความต้องการปริมาณน้ำ(Q) กับ เเรงดันน้ำ(H)ที่ต้องการ เเล้วไปหาร้านเเล้วบอกเค้าเลยครับ
เเต่ละยี่ห้อติดป้ายสเปคสินค้าไม่เหมือนกัน เเต่หลักๆจะมีข้อมูลสองอย่างนี้ รวมถึงกระเเสไฟฟ้า เเละ กำลังเครื่องอยู่เเล้ว
ควรเผื่อไว้หน่อยสัก 15-20% ของปริมาณที่เราต้องการครับ สำหรับบ้านเรื่อนเเนะนำเลือกเเบบอัตโนมัติ เเนะนำดู 250W ขึ้นไปนะครับถ้าจะใช้กับระบบน้ำด้วยเเล้วจะได้ไม่มีปัญหา ถ้าซื้อ 150W เเรงดันพอๆกับน้ำประปา จะติดปั๊มทั้งที ติดดีดี มันอยู่กับเราเป็น 5ปี 10ปี
7. วางเเผนให้ดีก่อนเริ่มลงมือ ไม่หาข้อมูลก่อนเริ่ม วางเเผนไม่ดี เสียทั้งเวลา เสียทั้งอุปกรณ์ ถ้าพื้นที่ใหญ่ๆ วางเเผนไม่ดี สรุปตอนจบงาน ค่าใช้จ่ายอาจจะบานกว่าจ้างผู้รับเหมาเข้ามาทำ
---
คำเเนะนำอื่นๆ จากทางร้าน
1. จะซื้ออุปกรณ์ อะไร หาข้อมูลก่อน ศึกษาเงื่อนไขต่างๆให้เข้าใจ ไม่ต้องรีบ ซื้อมาเเล้วใช้ไม่ได้เจ็บใจกว่า
2. อ่านคู่มือการใช้งาน ให้เรียบร้อยก่อนใช้งาน หากพบปัญหา ไม่เเน่ใจ สอบถามก่อนใช้งาน
3. ควรเผื่อปริมาณน้ำ เเละ เเรงดันน้ำ ไว้ 20% ตอนคำนวณหัวพ่น ถ้าเเรงดันเหลือ ค่อยเจาะเพิ่ม
4. เริ่มครั้งเเรก ทำทีละนิด อย่าทำใหญ่ ทำไปทีละโซน มั่นใจเเล้วค่อยขยายทีหลัง
5. ท่อ PE ทางร้านเเนะนำ สำหรับบ้านเรือนทั่วไปคือขนาด 20mm เพราะถ้าเทียบปริมาณการไหลพอๆกับท่อ PVC 1/2" เเนะนำหาซื้อคาดส้ม จะรับเเรงดันน้ำได้ดีกว่า เเละฉีดขาดยากกว่า
6. หากจะติด Timer เพื่อคุมจ่ายน้ำ เผื่อปริมาณน้ำ เเละ เเรงดัน ลดลงไปที่ 10-20%
7. หากใช้น้ำบาดาล กรองบาดาลให้เรียบร้อย กรองทั่วไปกรองเเร่ธาตุในน้ำบาดาลไม่ได้ ถ้าไม่กรองให้ดีก่อนใช้งาน รอเวลารื้อท่อใหม่ทั้งหลัง
8. อย่าคิดว่าน้ำประปาจะสะอาดไม่มีตะกอน เวลาซ่อมท่อ โคลนทั้งนั้นเข้าไปในระบบประปา กรองตะกอนก็เป็นสิ่งจำเป็นอยู่ดี
9. ของทุกอย่าง มีอายุการใช้งาน เเละ เสื่อมสภาพตามปัจจัยเเวดล้อม การดูเเลรักษา เเละ ซ่อมบำรุงจำเป็น
---
มาถึงตรงนี้เเล้ว เราจะไปต่อกันที่บทความต่อไป เพื่อคำนวณว่าน้ำที่เราใช้ จะเดินระบบเเบบไหนได้บ้าง
เเละ สามารถใช้หัวพ่นประเภทนั้นได้กี่หัวพ่น ตามไปอ่านต่อได้ที่
วิธีคำนวณหัวพ่นจ่ายน้ำ สำหรับบ้านเรือน : www.watertimerreview.com/b/93
----
แนะนำ บทความอื่นที่น่าสนใจ
แนะนำเดินระบบรดน้ำต้นไม้ ด้วยตัวเอง (สำหรับมือใหม่) : www.watertimerreview.com/article/109
วิธีคำนวณหัวพ่นจ่ายน้ำ สำหรับบ้านเรือน : www.watertimerreview.com/article/93
เเนะนำการเดินท่อPE สำหรับวางระบบน้ำ : www.watertimerreview.com/article/69
การเดินระบบสปริงเกอร์ Pop Up สำหรับบ้านเรือน : www.watertimerreview.com/article/92
เดินระบบหัวพ่นหมอก ลดความร้อน กรองฝุ่น ด้วยตัวเอง : www.watertimerreview.com/article/35
ระบบน้ำหยด(ท่อไมโคร PE 4มม) เหมาะพื้นที่เล็กๆ : www.watertimerreview.com/article/90
วิธีต่อพวงก๊อกน้ำ แบบไม่ต้องตัดท่อ PVC : www.watertimerreview.com/article/27
เเนะนำกรองเกษตร(กรองตะกอน) : www.watertimerreview.com/article/31
---
บทความเกี่ยวกับหัวพ่นหมอก
แนะนำหัวพ่นหมอกแต่ละประเภท : www.watertimerreview.com/article/101
เลือกหัวพ่นหมอกสำหรับลดฝุ่น : www.watertimerreview.com/article/107
พ่นหมอกยังไงไม่ให้พื้นเปียก : www.watertimerreview.com/article/106
แนะนำการเลือกซื้อชุดปั๊มพ่นหมอก : www.watertimerreview.com/article/120