ย้อนกลับไป 6 เดือนก่อน ... อยากทำสปริงเกอร์ ป๊อปอัพ สำหรับรดสนามโดยเฉพาะ เห็นสะดวก สวย ไม่มีสายยางเกะกะสายตา เลยตัดสินใจหาข้อมูลลองทำดู
ใช้มา 6 เดือน ทุกอย่างเรียบร้อยดี ผลออกมาประทับใจ วันนี้เลยมารีวิวเผื่อใครสนใจอยากจะลองเอาไปลองทำดูก็สามารถทำได้เอง
ปกติเค้าจะเดินท่อให้เรียบร้อยก่อนปูหญ้า เเต่ผมมาคิดได้หลังปูหญ้าไปเเล้ว ผิดหลักการไปหน่อย เเต่วิธีการไม่ต่างกันครับ
อุปกรณ์ สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ตามร้านขายอุปกรณ์การเกษตร
ผมเน้นประหยัดค่าใช้จ่าย เเละ ทำง่ายที่สุด
เลยจะไม่มีการเดินท่อเมนใหม่จากปั๊มอัตโนมัติ
หรือ ปรับเเต่งอะไรเกินจำเป็น
หัวใจที่สำคัญของ สปริงเกอร์ป๊อปอัพ คือ น้ำต้องเเรง
น้ำไม่เเรง ไม่มีปั๊ม เเนะนำใช้สปริงค์เกอร์ธรรมดากันต่อไป
ผมจะไม่พูดถึงทฤษฏีคำนวณให้วุ่่นวาย เเต่จะบอกรายละเอียดที่ผมทำเเล้วไปตัดสินใจกันเองนะครับ หลายเรื่องที่เคยเขียนบทความไปเเล้ว จะไม่ลงรายละเอียดเยอะนะครับ เเต่จะเเปะ Link ไว้ให้ด้านล่างอีกทีถ้าต้องการลงรายละเอียด ก็อ่านเพิ่มเติมได้ตาม Link ไปเลยครับ
รายละเอียด อุปกรณ์ต่างๆ ที่ผมใช้
- ปั๊มอัตโนมัติ Hitachi 350W สเปคของปั๊ม เเรงดันน้ำตัดที่ 2.8bar อัตราการไหลของน้ำ Max59 ลิตร ต่อ นาที
- ระยะจากปั๊มไปก๊อกเป็นท่อขนาด 1/2" ระยะทางประมาณ 20เมตร
- ปริมาณน้ำวัดจากก๊อกที่ใช้งานได้ 40 ลิตร ต่อ นาที
- เเรงดันวัดหน้าก๊อก ตอนเปิดน้ำอยู่ที่ 2.5bar+ (เปิดปั๊ม)
- สปริงเกอร์แบบป๊อปอัพ ผมเลือกเเบบ 4" รัศมี 5เมตร อัตรากินน้ำอยู่ที่ 5 - 10ลิตร ต่อนาที (ขึ้้นอยู่กับองศาในการเปิดน้ำ ) ต้องการเเรงดัน 2bar ไม่เกิน 4bar
- ท่อ PE ผมเลือกใช้ 25mm
- เครื่องตั้งเวลา ผมเลือกใช้ระบบ โซลินอยวาล์ว จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนถ่านบ่อย
วิธีคำนวณที่ผมใช้ เหมาะสำหรับบ้านเรือนทั่วไป ระยะสายรวมไม่เกิน 100 เมตร ไม่เดินท่อ พิสดาร โค้งงอเป็นเขาวงกต หรือ ระดับสูงต่ำมากเกินไป วิธีนี้ก็ยังคงได้ผลดีตลอด
1. ดูเเรงดันน้ำ : ดูอุปกรณ์(หัวพ่น)ที่เราจะใช้ว่าเเรงดันพอรึเปล่า?
2. ดูปริมาณน้ำ : วัดปริมาณจากหน้าก๊อกเลย ว่าได้เท่าไร อย่าเชื่อปั๊ม
3. ดูอัตราการกินน้ำของอุปกรณ์ที่เราใช้ เเล้วเอาไป หารกับปริมาณน้ำหน้าก๊อก
4. เอาตัวเลขที่ได้ มาหาร 2 หักพวกค่าเเรงดันสูญเสียต่างๆ(Head loss)ออกไป
คราวนี้ก็เอาข้อมูลมาเทียบกัน
- เริ่มจากเเรงดันน้ำ ผมใช้ปั๊ม วัดเเรงดันหน้าก๊อกที่ใช้ได้ที่ 2.8bar /สปริงเกอร์ป๊อปอัพ ใช่้เเรงดัน 2-4bar ถือว่าผ่าน
- ปริมาณน้ำหน้าก๊อกวัดได้ 40 ลิตร ต่อนาที
- สปริงเกอร์ป๊อปอัพ 1 ตัว ใช้น้ำ 10 ลิตร เอาไปหาร ก็ได้ 4ตัว
- เเต่อย่าลืมหักค่าสูญเสียเเรงดัน 4 ตัว หาร 2 ก็เหลือ 2 ตัว
เเต่ปัญหาคือ ถ้าผมติด 2 ตัว จะรดสนามได้ไม่ทั่ว ผมเลยตัดสินใจลองทำ 3 ตัว เปิดเต็ม 1 ตัว(10ลิตร) เเล้วอีก 2 ตัว เปิดครึ่งวง 180องศา(5ลิตร) รวมก็ 20 ลิตร ก็น่าจะได้อยู่
หลังจากวางเเผนเรียบร้อยเเล้วค่อยไปซื้ออุปกรณ์ ... เเนะนำให้คิด คำนวณให้เรียบร้อยก่อนนะครับ เวลาไปซื้อจะง่ายขึ้น คนขายก็จะเข้าใจว่าเราต้องการอะไร จะได้ไม่เข้าใจกันผิด
อย่าไปเเบบ ไม่มีตัวเลขอะไรเลย ไม่มีขนาดพื้นที่ เเรงดันน้ำ ปริมาณน้ำ ฯลฯ .. ไปเเบบนี้ทางร้านก็เเนะนำไม่ถูกครับ
อุปกรณ์ราคาไม่สูง เเนะนำซื้อเผื่อเลยนะครับ จะได้ไม่เสียเวลาวิ่งกลับไปซื้ออีกรอบ
อุปกรณ์ผมใช้เกรดทั่วไป
- ท่อ PE 25 มม // 30 เมตร // 600 บาท
- ข้อต่อ + สามทาง + เทปขาวพันเกลียว +เกลียวเเปลง // 250 บาท
- สปริงเกอร์ป๊อปอัพ 4 ตัว // 800 บาท (สำรอง 1)
รวมค่าอุปกรณ์ 1,650 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพ เเละ ร้านค้า)
เริ่มประกอบ
เอาท่อ PE ที่ซื้อมา ตากเเดดไว้ก่อนเลยครับ มันจะอ่อน ทำให้คลายตัว ดัดได้ง่าย
เตรียมเกลียวเเปลงเพื่อต่อเข้ากับเครื่องตั้งเวลา หรือ ก๊อกสนาม ขนาดที่ผมเลือกคือ 3/4"นิ้ว เเปลงเข้าท่อ PE25มม
อย่าลืมพันเกลียวด้วยเทปขาวก่อนนะครับ จะได้มั่นใจว่าไม่รั่วซึม
เตรียมข้องอ สำหรับประกอบท่อ PE กับ สปริงเกอร์ป๊อปอัพ
เหมือนเดิมครับอย่าลืมพันเทปขาวด้วย
เริ่มเดินท่อ วัดระยะตามที่ต้องการ
ตัดท่อด้วย มีด เลื่อย ฯลฯ เเล้วเเต่สะดวก เเล้วอย่าลืมเอาเศษออกด้วย
ทำการพ่วงท่อ ดันท่อPE เข้ากับข้อต่อให้สุด
เพิ่มความเเน่น หาอะไรมารัดไว้อีกชั้น ผมชอบใช้หนวดกุ้งครับ เรียบร้อย ง่าย ปลอดภัย
ต่อสปริงเกอร์ป๊อปอัพ ปรับมุม ทิศทาง ให้ถูกต้อง
เทสตัวเเรก แอบเห็นว่าน้ำออกไม่เต็มวง
สาเหตุเกิดจาก มีเศษไปอุดอยู่ที่กรองของสปริงเกอร์ป๊อปอัพ วิธีการเเก้ไข ก็เเค่ถอดหัวออก เอากรองออกมาล้างเศษ
เสร็จเเล้วเช็คอีกที .... เป็นวงสวยงาม ผ่านจุดเเรก
ต่อพ่วงไปจุดที่สอง .. โชคดีที่บ้านน้ำเเรงดันดี(วัดได้2bar) ไม่ต้องเปิดปั๊ม สองจุดนี้ก็ยังใช้ได้ดีอยู่
ทำการต่อพ่วงไปจุดที่สาม
จุดที่สาม... ถ้าไม่มีปั๊มช่วยนี้จบเลยครับ เเรงดันไม่พอ
มาถึงตรงนี้ ผมเเนะนำอย่าพึ่งใจร้อนรีบขุดฝังท่อนะครับ ลองใช้ไปก่อน คิดให้ดีว่าอยากปรับเปลี่ยนอะไรอีกรึเปล่า ก่อนที่จะขุดฝังท่อลงดิน ฝังไปเเล้วเเก้ไขยาก คิดให้ดีก่อนนะครับ
ผ่านไปสองวัน คิดว่าไม่เปลี่ยนเเปลงอะไรเเล้ว ผมก็เริ่มขุดดิน ก็ขุดตามเเนวท่อที่วางไว้ กะระยะ ทิศทาง ความลึกให้ดี
บริเวณสายผมไม่ขุดลึกมาก เอาเเค่ให้ท่ออยู่ในดินก็พอ ใช้จ๊อบเปิดหน้าดินด้านข้าง หญ้าจะได้ไม่ช้ำมาก ตอนกลบก็ง่าย
เเต่บริเวณหัวสปริงเกอร์ จำเป็นต้องขุดลึกหน่อย ให้ได้ระดับ อย่าให้หัวโผ่ลขึ้นมา บริเวณนี้หญ้าจะเสียหายเยอะ ไม่เป็นไรครับซ่อมเอาทีหลังได้
ถ้าเปิดหน้าดินดี เวลากลบคืนจะง่าย ไม่ค่อยมีรอยให้เห็นเเผลเยอะ
แต่ขอเเนะนำว่า ให้หาทรายมาโรยบริเวณที่เราเปิดหน้าดินวางท่อออก เพราะถ้าปล่อยไว้สักระยะดินจะทรุดเห็นเป็นรอยเเนวท่อเเน่นอน
โรยทรายเสร็จเรียบร้อย ลงน้ำตามให้ทรายเข้าไปตามช่องว่างของหน้าดินที่เราเปิดขึ้นมา ขั้นตอนนี้ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ ถ้าเห็นตรงไหนทรุดก็คอยเติมทราย สนามหญ้าจะได้เรียบเสมอกัน
หัวพ่น ถือว่าเป็นจุดที่มีความเสี่ยงมากที่สุด ทั้งจากการถูกเหยียบ โดยเฉพาะตอนตัดหญ้า ผมเลยเอาท่อ PVC มาตอกฝังให้ขอบสูงกว่าหัวพ่นเล็กน้อย (ผมใช้ข้อต่อเลยครับ หนาดี)
อย่างในรูป จะเห็นว่ามีจุดหนึ่งที่หัวพ่นอยู่สูงกว่าพื้นสนาม ผมก็ใช้ท่อตอกเป็นเกราะรอบๆไว้ก่อน เเล้วเดี๋ยวค่อยๆเดิมทรายให้ได้ระดับทีหลัง ค่อยๆเเก้ไปครับ
ระหว่างนี้ก็เติมทรายเรื่อยๆครับ สนามหญ้ายังไม่สวยไม่เป็นไร ใช้เวลาไม่นานครับ ไม่เกิน 2เดือน สนามก็จะกลับมาเนียนสวยเหมือนเดิม .. หญ้าจริงคือมันฟื้นตัวเองได้
อันนี้เป็นรูปล่าสุด หลังจากค่อยๆเติมทรายจนปรับระดับให้เท่ากับหัวสปริงเกอร์ เปลี่ยนหัวไปหนึ่งครั้ง เพราะตัดหญ้าเเล้วไปโดนครับ (พยายามซื้อยี่ห้อที่มีอะไหล่ขายนะครับ จะได้ไม่ต้องซื้อทั้งชุด)
เเค่นี้คุณก็สามารถมีสปริงเกอร์ป๊อปอัพในบ้าน ดูดี มีชาติตระกูล ไม่ต้องมาวุ่นวายกับการเก็บสายยางอีกต่อไป ทำครั้งเดียว ใช้นาน ใช้ลืม ที่สำคัญทำเองประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะ
ยิ่งถ้าใช้เครื่องตั้งเวลารดน้ำ ค่อยเปิดปิดน้ำให้ คุณก็ไม่ต้องมาคอยรดน้ำตอนเช้าก่อนไปทำงาน ไม่ต้องกลัวลืมรดเเล้วหญ้าจะเหลือง ชีวิตจะง่ายขึ้น ภาระจะน้อยลง ไม่ต้องเครียดกับการดูเเลสวนจนเกินจำเป็นครับ
มาดูวีดีโอ รีวิวการทำงานของสปริงเกอร์ ป๊อปอัพ กันครับ
หวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจอยากมีระบบสปริงเกอร์ป๊อปอัพในสวนของตัวเองนะครับ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจได้ที่
วิธีหาปริมาณน้ำ เเรงดัน คำนวณจำนวนหัวพ่น
>> https://www.watertimerreview.com/b/93
การเดินระบบรดน้ำต้นไม้ สำหรับบ้านเรือน ด้วยตัวเอง
>> https://www.watertimerreview.com/b/69
ติดเกจวัดเเรงดันน้ำ
>> https://www.watertimerreview.com/b/28
คำเเนะนำในการเลือกซื้อเครื่องตั้งเวลารดน้ำ ทุกรุ่น พร้อมราคา
>> https://www.watertimerreview.com/b/84
วิธีติดตั้งเครื่องตั้งเวลารดน้ำต้นไม้เข้ากับก๊อกสนาม
>> https://www.watertimerreview.com/b/43
"บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของ WaterTimerReview.com ไม่อนุญาตให้ทำการคัดลอกไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า เเต่ยินดีให้นำข้อมูลไปใช้สำหรับการศึกษาเพื่อเป็นประโยชน์กับชุมชน เเละ สังคม"
หากนำข้อมูลไปใช้อ้างอิงรบกวนช่วยให้เครดิตด้วยนะครับ
แนะนำ ส่วนบทความอื่นที่น่าสนใจ
แนะนำเดินระบบรดน้ำต้นไม้ ด้วยตัวเอง (สำหรับมือใหม่) : www.watertimerreview.com/article/109
วิธีคำนวณหัวพ่นจ่ายน้ำ สำหรับบ้านเรือน : www.watertimerreview.com/article/93
เเนะนำการเดินท่อPE สำหรับวางระบบน้ำ : www.watertimerreview.com/article/69
การเดินระบบสปริงเกอร์ Pop Up สำหรับบ้านเรือน : www.watertimerreview.com/article/92
เดินระบบหัวพ่นหมอก ลดความร้อน กรองฝุ่น ด้วยตัวเอง : www.watertimerreview.com/article/35
ระบบน้ำหยด(ท่อไมโคร PE 4มม) เหมาะพื้นที่เล็กๆ : www.watertimerreview.com/article/90
วิธีต่อพวงก๊อกน้ำ แบบไม่ต้องตัดท่อ PVC : www.watertimerreview.com/article/27
เเนะนำกรองเกษตร(กรองตะกอน) : www.watertimerreview.com/article/31
---
บทความเกี่ยวกับหัวพ่นหมอก
แนะนำหัวพ่นหมอกแต่ละประเภท : www.watertimerreview.com/article/101
เลือกหัวพ่นหมอกสำหรับลดฝุ่น : www.watertimerreview.com/article/107
พ่นหมอกยังไงไม่ให้พื้นเปียก : www.watertimerreview.com/article/106
แนะนำการเลือกซื้อชุดปั๊มพ่นหมอก : www.watertimerreview.com/article/120
(10.00น. – 22.30น.) ขอบคุณครับ _/\_