สวัสดีครับ .. วันนี้เลยจะมาเเนะนำการเดินท่อ PE สำหรับรดน้ำต้นไม้ในบ้าน เเละ เทคนิคต่างๆ ที่จะช่วยให้ทำงานได้ง่าย เเละ ไวขึ้นครับ
การเดินระบบรดน้ำต้นไม้ ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้น ต้นไม้ได้น้ำตามจุดที่เราต้องการ ไม่เลอะเทอะ ไม่มีสายยางยาวๆกองไว้ บ้านดูสะอาดตามากขึ้น เเละ ประหยัดในระยะยาว สายยางรดน้ำต้นไม้ถ้าโดนเเดดจัด ใช้งานหนัก ไม่กี่ปีก็กรอบ ฉีกขาด เเต่ถ้าเดินระบบโดยใช้ท่อ PE พวกนี้ทนเเดด ทนเเรงดันได้ดีกว่า ใช้ได้หลายปี เเละ ที่สำคัญ ราคาถูกกว่าสายยางเยอะ
เมื่อก่อน ตัวช่วยในการรดน้ำต้นไม้มีไม่มา สปริงค์เกอร์เป็นตัวช่วยหลักที่เราพบเห็นได้ทั่วไป มีหลายเเบบ รูปเเบบของน้ำที่ออกมาก็จะเเตกต่างกันไป เลือกใช้ตามความชอบของผู้ใช้งาน
ไม่มีการเดินระบบอะไร เป็นการต่อสายยางเข้ากับก๊อกน้ำ เเล้วปล่อยน้ำเข้ากับ สปริงเกอร์สนาม เเล้วกะระยะรัศมีให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ต้องการ โดยปรับเเรงดันน้ำที่ก๊อกเอาว่าจะให้รัศมีกว้างขนาดไหน
ข้อดีของเเบบนี้คือ ง่าย ... ทำให้เราเห็นได้ทั่วไป
ส่วนข้อเสีย คือ ไม่สวยงาม ไม่เรียบร้อย ดูเกะกะ ต้องค่อยย้ายปริงเกอร์ เเละ ปรับเเรงดันน้ำให้เหมาะสมตามจุดที่เคลื่อนย้าย
เเต่ในปัจจุบัน เราจะเห็นว่าหลายๆบ้านเปลี่ยนมาใช้วิธีการเดินท่อ ให้น้ำตามความเหมาะสมกับพื้นที่ เเละ ต้นไม้เเต่ละประเภทมากขึ้น โดยเรามักเรียกกันว่า "วางระบบรดน้ำต้นไม้" เมื่อก่อนการวางระบบรดน้ำมีราคาสูง เเละ ค่อนข้างยุ่งยากในการติดตั้ง ต้องอาศัยบริษัทมาดูเเลติดตั้ง .. เเต่ปัจจุบันอุปกรณ์มีราคาถูกลง อุปกรณ์ลูกเล่นต่างๆมีมากขึ้น ขนาดเล็กลง สวยงามขึ้น เเละ ที่สำคัญติดตั้งได้ง่ายขึ้น ทำได้เอง ทำให้เราเห็นการวางระบบรดน้ำต้นไม้ตามบ้านเรือนทั่วไปมากขึ้น
หัวใจของการเดินระบบน้ำต้นไม้คือ .... "เเรงดันน้ำ" เเละ "ปริมาณน้ำ" หากเเรงดันน้ำเยอะ + ปริมาณน้ำมาก คุณก็ติดตั้งหัวพ่นได้หลายจุด หลายเเบบ เดินท่อได้ไกลขึ้น เเต่หากเเรงดันน้ำน้อย คุณก็ควรจะต้องเลือกระบบน้ำหยดมาใช้เเทนหัวพ่นถึงจะเหมาะสมกับเเรงดันน้ำ
หัวพ่น หัวจ่ายน้ำก็มีหลายประเภท ... ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน เเละ ที่สำคัญ อย่าลืมเรื่องเเรงดันน้ำ เเละ ปริมาณน้ำ เพื่อคำนวณให้ใช้ได้อย่างเพียงพอด้วยนะครับ
หัวให้น้ำเเบ่ง หลักๆ ได้ตามนี้
1. หัวพ่นเเบบ สปริงค์เกอร์ทั่วไป : เเบบนี้มักจะต่อเข้ากับท่อขนาด 1/2" จะกินน้ำเยอะที่สุด สำหรับบ้านเรือนทั่วไปที่ใช้น้ำประปา เเละ ไม่มีปั๊ม ติดตั้งเพียงจุดเดียวจะให้ผลดีที่สุด หากต้องการติดตั้งหลายจุดควรจะมีปั๊มน้ำช่วย
2. หัวพ่นเเบบ มินิสปริงค์เกอร์ : เเบบนี้จะกินน้ำลดลงมา จะต่อเข้ากับสายไมโครPE(6mm) กินน้ำน้อยลง ทำให้ใช้ได้หลายจุด สำหรับบ้านเรือนทั่วไปที่ใช้น้ำประปา เเละ ไม่มีปั๊ม อาจะได้ใช้ 3-5 จุด หรือ มากกว่านั้นขึ้นอยู่กับเเรงดันน้ำ เเละ ระยะการเดินท่อ
3. หัวพ่นสำหรับท่อ PE : ตัวนี้จะกินน้ำมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดรูว่ามีขนาด 3มม หรือ 4มม เเละ รูปเเบบของรัศมีหัวพ่นว่าเป็นเเบบไหน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากร้านที่ขายได้ว่าหัวเเต่ละประเภทกินน้ำกี่ลิตรต่อนาที
4. หัวน้ำหยด : อันนี้ก็เป็นการให้น้ำอีกรูปเเบบที่ไม่ต้องการเเรงดันน้ำเยอะ กินน้ำน้อย ให้น้ำได้ตรงจุดทำให้ประหยัดน้ำ หากน้ำมีเเรงดันก็สามารถเดินท่อได้ยาว เเละ เพิ่มจุดให้น้ำได้เยอะขึ้น โดยอุปกรณ์ต่างๆจะมีการบอกว่า กินน้ำกี่ "ลิตร" ต่อ "ชั่วโมง" โดยสามารถสอบถามได้จากร้านที่ซื้อเช่นกันครับ
หัวน้ำหยดจะมีหลายเเบบ เเบบปรับปริมาณน้ำ กับเเบบ fix เเรงดันน้ำ ส่วนตัวผมชอบเเบบ fix เเรงดันน้ำมากกว่า เพราะน้ำเเต่ละจุดจะออกในปริมาณที่เท่าๆกัน หากใช้เเบบปรับเเรงดันเอง ถ้าพื้นที่ใหญ่ๆจะปวดหัวต้องมาปรับเเต่ละจุดกว่าจะให้น้ำออกเท่ากันก็ลำบาก
5. ท่อน้ำหยด เทปน้ำหยด เทปน้ำพุง : ผมไม่ขอลงรายละเอียดนะครับ เพราะไม่ค่อยเหมาะกับการนำมาใช้ในบ้านเรือนเท่าไร เหมาะกับการทำเเปลงการเกษตรขนาดใหญ่ ท่อพวกนี้ต้องใช้เเรงดันน้ำ เเละ ต้องการปริมาณน้ำมาก
คิดว่าคงจะพอเห็นภาพหัวพ่น การให้น้ำเเต่ละเเบบไปเเล้ว ราคาก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ คุณภาพ เเละ ร้านค้าที่ขาย ... อุปกรณ์ทั้งหมดนี้ร้านอุปกรณ์การเกษตรทั่วไปมักจะมีขายครับ เเต่ถ้าไม่รู้จะหาที่ไหน ไปพวก HomePro ไทวัสดุ บุญภาวร Global House ฯลฯ เดี๋ยวนี้บางตัวใน Lotus ก็มีขายนะครับ
คราวนี้มาดูเรื่องท่อ PE กันบ้าง ... ท่อ PE ที่ใช้ในบ้านเรือนทั่วไป(พูดถึงบ้านขนาดไม่เกิน 100ตรว) เราจะใช้กันอยู่ 3 ขนาดครับ คือ 16มม 20มม เเละ 25 มม ... โดยขนาดที่ผมเเนะนำ เเละ คือ 20มม ไมใหญ่เกิน ไม่เล็กไป อัตราการไหลของน้ำกำลังดี เหมาะสำหรับบ้านเรือนทั่วไปที่ส่วนใหญ่ใช้ท่อขนาด 1/2"(4หุน) ส่วนใครจะเลือกใหญ่ขึ้น หรือ เล็กลงก็เเล้วเเต่ความต้องการใช้งาน
ท่อ PE ดีกว่าท่อ PVC ตรงไหน ? ... คือมันเหมาะเเละสะดวกกับการใช้งานมากกว่า ราคาถูกกว่า ยืดหยุ่นมากกว่า รับเเรงดันน้ำได้สูงกกว่า(ตามเกรดของท่อ PE) ว่ากันไป ... เเรงดันน้ำประปาบ้านโดยทั่วไปไม่เกิน 2bar หากผ่านปั๊มอัตโนมัติสำหรับบ้านเรือนทั่วไป อ้างอิง Hitachi 400w ตัวเเรงสุด เเรงดันน้ำก็อยู่ที่ 2.8bar ... ฉะนั้นซื้อท่อ PE เเบบทั่วไปก็พอครับ ขอเเค่อย่าโดนของมีคม หรือ โดนทับบ่อยๆ ก็ใช้นานหลายปี ราคาถูกกว่า PVC เยอะครับ
มาถึงพวกอุปกรณ์เสริม ข้อต่อ ข้องอ สามทาง วาล์ว ... ร้านที่ขายพวกท่อ PE มักจะมีอยู่เเล้ว ก็ให้เลือกขนาดให้ตรงกับท่อ PE เเละ อุปกรณ์ที่เราใช้ครับ ถ้าขนาดไม่เท่ากันก็ซื้อตัวปรับเพิ่มลดขนาดมาให้เรียบร้อย
รู้จักอุปกรณ์ รู้ที่ซื้ออุปกรณ์ กันเรียบร้อย คราวนี้ก็มาต่อเรื่องคำเเนะนำในการเดินระบบให้น้ำกันครับ ...
1. สิ่งเเรกที่ต้องคิดเลยคือ เราต้องการให้น้ำเเบบไหน ... สนามหญ้า โรงเพาะชำ ไม่พุ่มตามเเนวรั้ว ฯลฯ ใช้ปรัมาณน้ำทั้งหมดเท่าไร ดูสเปคของหัวพ่นว่ากินน้ำเท่าไร เเล้วบวกเพื่อค่าสูญเสียในระบบไปอีกสัก 30%
2. เเรงดันน้ำ เพียงพอรึเปล่า .. ถ้าจำนวนจุดเยอะ เเรงดันน้ำสำหรับหัวพ่นไม่พอ ระบบน้ำหยดจะเป็นตัวเลือกที่ดี โดยชดเชยเพิ่มระยะเวลาในการปล่อยน้ำให้นานขึ้นแทน
3. วางเเผนการเดินระบบ จะเดินเเบบไหน กี่เมตร ใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง ข้อต่อ ข้องอ วาล์ว หนวดกุ้ง เขียนเเบบคราวๆ ... เอาไปปรึกษาเพิ่มเติมที่ขายได้ครับ
4. ไปซื้อของ .. ของพวกนี้ราคาไม่เเพงครับ เเนะนำให้ซื้อมาเผื่อเลย เหลือดีกว่าขาดเเล้วต้องวิ่งออกไปซื้อใหม่ครับ
การเดินระบบ หากทำครั้งเเรก สำหรับมือใหม่ เเนะนำให้ลองทำไปทีละนิด ทีละโซน อุปกรณ์พวกนี้สามารถต่อเพิ่มเติมได้ไม่ยาก การทำไปทีละโซนจะช่วยให้คุณรู้ว่าเเรงดันน้ำเพียงพอต่อการต่อขยายเพิ่มได้อีกรึเปล่า
(หมายเหตุ : ถ้าคุณไม่รู้ว่าเเรงดันน้ำเท่าไร ปริมาณน้ำที่ออกมากน้อยขนาดได้ พนักงานที่ร้าน อาจจะให้ข้อมูลได้เเค่เป็นการประมาณการณ์ ไม่สามารถตอบที่เเน่นอนได้ เพราะมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการคำนวณ ไม่ว่าจะเป็นระยะทาง จำนวนข้อต่อ ความสูง ... ฯลฯ โดยเเรงดันน้ำ เเละ ปริมาณน้ำเป็นเรื่องหลักที่จำเป็นต้องทราบ)
คราวนี้มาดูเรื่องการติดตั้ง ... ประกอบร่างตามเเบบที่เราวาดไว้
อุปกรณ์หลักที่จำเป็น
1. ท่อ PE ขนาดที่เเนะนำ คือ 20มม นะครับ โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์การเกษตรทั่วไป หรือ Home Pro... หาซื้อไม่ยากครับ
2. ข้อต่อ ข้องอ สามทาง วาล์วต่างๆ ตามขนาดท่อ PE ที่เลือกเลยครับ ปกติร้านที่ขายท่อPE มักจะมีขายอุปกรณ์พวกนี้เช่นกัน
3. หัวพ่นเเบบที่ต้องการ : หัวพ่น90องศา หัวพ่น 180องศา หัวพ่น 360องศา มินิสปริงค์เกอร์ หัวพ่นหมอก หัวน้ำหยด เเล้วเเต่ความต้องการใช้งานเลยครับ *** ให้ดูเรื่องเเรงดันน้ำ กับ ปริมาณน้ำด้วยนะครับ เเต่ละประเภทใช้เเรงดันน้ำ กับ ปริมาณน้ำไม่เท่ากัน
ส่วนอุปกรณ์เสริม
- ตัวเจาะท่อ PE : ตัวนี้ถ้าไม่ซีเรียสก็ใช้ปลายไขควง หรือ ตะปูเจาะก็ได้ เเต่ถ้าจะซื้อเเบบเป็นตัวเจาะเฉพาะเลยก็สะดวกขึ้นครับ จะมี 2 ขนาดคือ รู3มม กับ รู4มม เเนะนำ 3มิล ครับ .. มันมีหลายเเบบนะครับ (เเบบในรูปเป็นเเบบพลาสติกมีทั้งหัว 3มม เเละ 4มม)
- คีม : อันนี้เผื่อไว้ใช้ตอนจับหัวพ่นต่างๆยัดเข้ารูที่เจาะไว้ครับ จะได้ไม่เจ็บมือถ้ามีอยู่เเล้วก็ไม่ต้องซื้อครับ
- Cable Tie หรือ หนวดกุ้งรัดสายไฟ / ลวด เอาไว้ใช้รัดตรงพวกข้อต่อกับท่อ PE ครับ ถ้าจะให้เเน่น ใช้ลวดก็ได้นะครับ รับรองไม่มีหลุดเเต่นานๆไปชอบเป็นสนิมผมเลยใช้หนวดกุ้งเเทน
- เทปกาว : ผมเอาไว้เป็นตัวปิดปลายท่อ คือหักงอ เเล้วใช้เทปกาวรัดไว้ สวยกว่าใช้เเหวนรัดปิดปลายท่อPE
- สมอบก ใครเน้นเก็บงานให้เรียบร้อย ก็หาซื้อมาใช้ได้ครับ เอาไว้ยึดท่อให้เเนบกับดิน ซื้อให้ตรงขนาดกับท่อ PE นะครับ จะได้สวยๆ
อุปกรณ์ต่างๆเบื้องต้นหากไม่สะดวกเดินทางไปซื้อ ทางร้านก็มีจำหน่าย
สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ : www.watertimerreview.com/category/21
วิธีติดตั้ง เเละ เทคนิคต่างๆ
>>> ก่อนจะมาขั้นตอนนี้คุณต้อง วัดระยะ กับ คำนวณอุปกรณ์ที่จะใช้เรียบร้อยเเล้ว ก่อนไปซื้อนะครับ <<<
เริ่มเเรกเลยคือ เตรียมท่อ PE ครับ ...
สิ่งที่ยากที่สุดในส่วนของท่อ PE คือ มันจะโค้งงอ ตามที่ม้วนมาให้
วิธีง่ายที่สุด คือ นำท่อ PE ไปตากเเดดสักพัก มันจะเริ่มคลายตัว ประมาณ 10 นาที มันจะอ่อนคลายตัว เราสามารถจัดวางได้ง่ายขึ้น ถ้าอยากให้ง่ายขึ้นอีก ปิดปลายท่อ PE ไว้ข้างหนึ่งก่อนเเล้วเติมน้ำเข้าไปท่อจะมีน้ำหนัก ทำให้จับวางเเนวกับพื้นได้ง่ายขึ้น (เเต่หลังจากติดตั้งเสร็จต้องเปิดปลายท่อเติมน้ำไล่เศษอีกครั้งก่อนปิดนะครับ)
หลังจากนั้นเอาด้านท้ายมาพับปิดไม่ให้น้ำออก ความจริงมันจะมีตัวปิดท้ายขาย เเต่ผมไม่ชอบเพราะมันไม่เรียบ เลยใช้วิธีพับ มัดลวด เเล้ว เอาเทปดำ ปิดทับอีกทีเรียบกว่าเยอะ (วิธีนี้เหมาะสำหรับท่อขนาดไม่เกิน 20มม นะครับใหญ่กว่านี้เเนะนำหาซื้อตัวปิดท้ายจะดีกว่า)
วางท่อ PE ตามเเนวที่เราต้องการติดไว้กับพื้นก่อน วัดระยะเจาะรูตามตำเเหน่งที่ต้องการ เเล้ว ติดหัวพ่นเเบบที่เราชอบ ตามมุม เเละ ทิศทางองศาที่เราต้องการได้เลยครับ ในรูปตัวอย่างนี้ใช้ที่เจาะเเบบหัวเหล็กจะเจ้าได้ง่าย เเละเรียบร้อยกว่าหัวเจาะเเบบพลาสติกด้านบนครับ
เจาะรูเสร็จเเล้วก็เอาคีม จับหัวพ่นหมอก(หรือหัวพ่นที่เราต้องการ) กดลงเข้ารูตามที่เราเจาะไว้ครับ
กดลงไปให้บ่าล๊อกจมเข้าไปในท่อ PE นะครับ
หัวน้ำหยด หัวพ่น มินิสปริงเกอร์ ฯลฯ ... หลักการเดียวกันครับ เจาะรู เเล้วเอาหัวพ่นยัดเข้าไป
นำท่อ PE ที่ติดหัวพ่นเรียบร้อยเเล้ว ยึดติดกับจุดที่เราต้องการ จะใช้ลวด หรือ Cable tie ก็เเล้วเเต่สะดวกครับ
ติดตั้งข้อต่อต่างๆให้เรียบร้อย (ถ้าอยากให้ยัดเข้าง่ายๆ ลองหาน้ำมันหล่อลื่น หรือน้ำสบู่ ทาช่วยได้) ดันให้สุดเเล้วรัดข้อต่อกับท่อ PE ให้เเน่น ผมชอบใช้หนวดกุ้งเหมือนเดิมครับ(รัดให้เเน่นเสร็จเเล้วตัดเก็บสายให้เรียบร้อยด้วยนะครับ ) ใครจะใช้ลวดรัดก็ได้ครับ เเต่เนานเข้ามันชอบเป็นสนิม วิธีนี้เเนะนำสำหรับท่อPE ขนาดไม่เกิน 32มม นะครับ ถ้าใหญ่กว่านี้ซื้อตัวล๊อคสายมาเสริมจะเเน่นกว่า
จุดที่เดินเรียบกับพื้นดิน ผมใช้สมอบกยึดไว้ครับ หน้าตาเจ้าสมอบกสำหรับยึดท่อ PE กับดินครับ(เลือกซื้อให้ถูกขนาดกับท่อ PE นะครับ) ใครจะฝังในดินซ่อนท่อก็เอาที่สะดวกได้เลยครับ
สำหรับคนที่ต้องการใช้ร่วมกับท่อไมโคร PE (ท่อดำเล็ก) ก็สามารถต่อได้เหมือนกันนะครับ วิธีการเดียวกันเลย เสียบข้อต่อระหว่างท่อ PE กับ ท่อไมโครPE ได้ตามรูปเลยครับ
ลากสายลงตามจุดที่ต้องการได้เลยเหมือนกันครับ
VDO เเนะนำอุปกรณ์(ท่อ PE20mm) เเละ วิธีประกอบ
การเดินระบบรดน้ำต้นไม้ให้สมบูรณ์ มักจะมีการติดตั้งเครื่องตั้งเวลารดน้ำต้นไม้อัตโนมัติเข้าไป ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องคอยเปิดปิดน้ำเอง ช่วยรดน้ำต้นไม้เวลาที่ไม่อยู่บ้านหลายวัน หรือ ป้องกันการเปิดน้ำเเล้วลืมปิดได้
การเลือกซื้อเครื่องตั้งเวลารดน้ำ ควรเรื่องเครื่องตั้งเวลาคุณภาพสูง เเละ มีระบบป้องกันถ่านอ่อนเพื่อไม่ให้เครื่องเปิดน้ำทิ้งไว้หากถ่านหมดระหว่างเปิดน้ำ โดยเครื่องตั้งเวลาทุกรุ่นที่เราจำหน่าย ผ่านมาตราฐานนำเข้าสหภาพยุโรป มีระบบป้องกันถ่านอ่อน หากเครื่องวัดเเรงดันถ่านเเล้วพบว่าถ่านอ่อน เครื่องจะปิดวาล์ว มีสัญญาณเเจ้งเตือน เเละ ไม่เปิดน้ำจนกว่าจะเปลี่ยนถ่านใหม่
โดยคุณสามารถดูคำเเนะนำในการเลือกซื้อเครื่องตั้งเวลาได้ที่
www.watertimerreview.com/b/57
การต่อท่อ PE เข้ากับเครื่องตั้งเวลา จะใช้ข้อต่อสวมเร็วตัวเมียก็ได้ เเต่ถ้าเจอเเรงดันน้ำสูงๆ ตากเเดดไปนานๆ น้ำชอบรั่ว ไม่เเนะนำครับ
ถ้าเเรงดันน้ำมาก เเนะนำให้หาเกลียวเเปลงหางปลา โดนให้ขนาดเกลียวถูกต้องตรงกับก๊อกสนาม เเละ ท่อ PE ที่ใช้ จะดีกว่าครับ
พันเทปขาวกันซึมตรงเกลียว
แล้วประกอบเข้าดัวยกัน ขันให้พอเเน่นตึงมือไม่รั่วก็ถือว่าใช้ได้ครับ
เเค่นี้ก้เอาไปเสียบต่อเข้ากับท่อ PE เเละ ติดตั้งเข้ากับก๊อกสนามได้เลยครับ
---
เเต่สำหรับใครที่ต้องการใช้ร่วมกับเครื่องตั้งเวลารดน้ำต้นไม้ ก็สามารถต่อเข้ากับตัวเครื่องได้เลยนะครับ
โดยเครื่องตั้งเวลารดน้ำทุกรุ่นที่เราจัดหามา น้ำออกจะเป็นเกลียวนอกขนาด 3/4" ทุกรุ่น ..
เเนะนำให้ประกอบหางปลาให้เเน่นใช้เทปพันเกลียวด้วย เเล้วนำไปต่อเข้ากับท่อPEให้เรียบร้อย เสร็จเเล้วค่อยมาหมุนประกอบเข้ากับเครื่องตั้งเวลา เเละ ค่อยนำเครื่องเวลาติดเข้ากับก๊อกสนาม เเบบนี้จะง่ายกว่าน้ำมาต่อเข้าทีหลังครับ
เพียงเเค่คุณเราก็สามารถเดินระบบรดน้ำต้นไม้ + ติดตั้งเครื่องตั้งเวลารดน้ำต้นไม้เรียบร้อย คุณก็ไม่จำเป็นต้องมาค่อยกังวลกับการรดน้ำต้นไม้ ในวันที่คุณกลับบ้านดึก ไปต่างจังหวัด หรือ ไม่อยู่บ้านนานๆได้เเล้วครับ
เรายังมีบทความอื่นๆที่น่าสนใจอีก... เพียบ
อ่านเพิ่มเติม "ฟรี" ได้ที่ www.watertimerreview.com/b/65
-๐-
"บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของ WaterTimerReview.com ไม่อนุญาตให้ทำการคัดลอกไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า เเต่ยินดีถ้า "เเชร์" เพื่อนำข้อมูลไปใช้สำหรับการศึกษาให้เป็นประโยชน์กับชุมชน เเละ สังคม"
(หากนำข้อมูลไปใช้อ้างอิงรบกวนช่วยให้เครดิตเวปด้วยนะครับ)
-๐-
แนะนำ ส่วนบทความอื่นที่น่าสนใจ
แนะนำเดินระบบรดน้ำต้นไม้ ด้วยตัวเอง (สำหรับมือใหม่) : www.watertimerreview.com/article/109
วิธีคำนวณหัวพ่นจ่ายน้ำ สำหรับบ้านเรือน : www.watertimerreview.com/article/93
เเนะนำการเดินท่อPE สำหรับวางระบบน้ำ : www.watertimerreview.com/article/69
การเดินระบบสปริงเกอร์ Pop Up สำหรับบ้านเรือน : www.watertimerreview.com/article/92
เดินระบบหัวพ่นหมอก ลดความร้อน กรองฝุ่น ด้วยตัวเอง : www.watertimerreview.com/article/35
ระบบน้ำหยด(ท่อไมโคร PE 4มม) เหมาะพื้นที่เล็กๆ : www.watertimerreview.com/article/90
วิธีต่อพวงก๊อกน้ำ แบบไม่ต้องตัดท่อ PVC : www.watertimerreview.com/article/27
เเนะนำกรองเกษตร(กรองตะกอน) : www.watertimerreview.com/article/31
---
บทความเกี่ยวกับหัวพ่นหมอก
แนะนำหัวพ่นหมอกแต่ละประเภท : www.watertimerreview.com/article/101
เลือกหัวพ่นหมอกสำหรับลดฝุ่น : www.watertimerreview.com/article/107
พ่นหมอกยังไงไม่ให้พื้นเปียก : www.watertimerreview.com/article/106
แนะนำการเลือกซื้อชุดปั๊มพ่นหมอก : www.watertimerreview.com/article/120
ตอบทุกข้อความ แต่อาจจะตอบกลับช้าหน่อยนะครับ
(10.00น. – 22.30น.) ขอบคุณครับ _/\_