วันนี้มาอัพเกรด ระบบพ่นหมอกที่บ้าน ที่ทำไว้เมื่อสองปีก่อน(2559) เลยมาอัพเดทข้อมูลในบทความให้นะครับ
มารู้จักหัวพ่นที่ทำการ อัพเกรด ในรอบนี้นะครับ จะเป็นหัวพ่นแบบเนต้าฟิม สามารถถอดล้าง ทำความสะอาดได้ ทำให้ลดปัญหาเรื่องการอุดตันของหัวพ่นหมอกเเบบเดิมๆที่ใช้อยู่ เเละ ขนาดละอองน้ำก็เล็กกว่าเดิม(0.8mm) อีกด้วย
หัวพ่นหมอกพลาสติก ความละเอียดของหัวละอองน้ำจะอยู่ที่ 0.6mm อัตราการกินน้ำอยู่ที่ 9 - 15 ลิตร ต่อชั่วโมง เเล้วเเต่เเรงดันน้ำที่ใช้ เเรงดันน้ำขั้นต่ำอยู่ที่ 1bar ถึงจะใช้ได้นะครับ (แรงดันน้ำประปาอยู่ที่ 1.5bar)
จากการทดสอบ หากไม่ใช้ปั๊มน้ำ ไม่ควรติดตั้งเกิน 5 หัวพ่น
เเต่หากมีปั๊มน้ำช่วย จะสามารถติดตั้งได้ 15-20หัวพ่น
ยังไงก็ตาม ทางร้านเเนะนำว่า หากจะใช้หัวพ่นหมอกระบบนี้ อย่างน้อยที่บ้านควรจะมีปั๊มน้ำอัตโนมัติ หากไม่มีไม่เเนะนำครับ
มาดูข้อดีของหัวพ่นหมอกแบบพลาสติก คือ ลดความร้อน เเละ ฝุ่นได้ดี เเต่ข้อเสียคือ ละอองยังใหญ่ ตกถึงพื้นเปียกอยู่นะครับ
ถ้าอยากได้เเบบที่ละอองตกพื้นเเล้วไม่เปียก ก็ต้องเลือกเเบบหัวพ่นสเเตนเลสที่ใช้ปั๊มเเรงดันช่วยอัด ละอองจะเล็กมาก 0.3mm พื้นก็ไม่เปียกครับ ระบบนี้ดีกว่าระบบพลาสติกทุกอย่าง เเต่ข้อเสียคือ ต้องใช้ปั๊มช่วยเพิ่มเเรงดันน้ำ เเละ ราคาสูงกว่าหัวพ่นหมอกเเบบพลาสติกหลายเท่าตัว
พอจะทราบเงื่อนไขกันเเล้วนะครับ ถ้าใครคิดว่าระบบนี้เหมาะกับตัวเองก็ลองดูวิธีติดตั้งด้านล่างได้เลย ด้านล่างจะเป็นรีวิวเก่า ที่เขียนไว้เมื่อปีที่เเล้วนะครับ หัวพ่นในรูปเลยจะเป็นหัวพ่นรุ่นเก่าอยู่
------- REVIEW Since 2016 -------
หน้าร้อน ตอนกลางวัน มันโหดร้าย ออกไปนั้งเล่นนอกบ้านไม่ได้เลย เลยลองทำระบบพ่นหมอก เผื่อจะได้ช่วยลดความร้อน เเละ ลดฝุ่น ... หลังจากติดตั้งเเล้วเห็นผลเเล้ว ถือว่าคุ้มค่ากับเงิน เเละ เวลาที่ลงทุนทำไปครับเลยเขียนรีวิวนี้มาเเนะนำกันต่อ
วิธีติดตั้งหัวพ่นหมอกที่เเนะนำจะเป็น "เเบบประหยัด" หลายคนอาจรู้สึกว่าการเดินระบบพ่นหมอกรอบบ้านนั้น ราคาสูง ยุ่งยาก ต้องให้ช่างมาติดตั้งให้ เเน่นอนครับว่า ของดี คุณภาพสูง สเป็คสูง ราคาก็สูงตามไปด้วย เเต่ถ้าเราลดสเป็คความต้องการลง เอาเท่าที่จำเป็น บทความนี้น่าจะช่วยทำให้คุณสามารถทำเองได้ (เเต่คุณต้องมั่นใจก่อนนะครับว่ารับได้ในข้อจำกัด ที่จะพูดถึงต่อไป)
ขอเริ่มที่ ข้อจำกัดของระบบที่จะเเนะนำก่อนเลยนะครับ
(ใครรับข้อจำกัด เงี่อนไขเหล่านี้ไม่ได้จะได้ไม่เสียเวลาอ่านต่อครับ)
ระบบบนี้ต้องใช้เเรงดันน้ำมากกว่า 1 bar ในการติดตั้ง ปกติน้ำประปา เเรงดันจะอยู่ที่ 1.5bar เเต่หากไม่มีปั๊มช่วย ก็ไม่ควรติดตั้งเกิน 5 ตัวครับ หากที่บ้านมีปั๊มน้ำอัตโนมัติช่วย เเบบนี้ก็ได้ 15-20 หัว เเล้วเเต่เเรงดันของปั๊มที่ท่านใช้อยู่ครับ
ข้อควรทราบ
- ไม่ควรเดินท่อยาว ยิ่งยาวเเรงดันน้ำในระบบยิ่งลดลงนะครับ พยายามเดินให้สั้นที่สุด
- หัวพ่นยิ่งเยอะ เเรงดันน้ำก็ยิ่งดรอปลง
โอเค .... มาถึงตรงนี้เเล้ว ใครยังรับได้กับเงื่อนไข ลุยกันต่อครับ
มาต่อกันที่อุปกรณ์ เเละ ราคา ที่ผมใช้ในการทำครั้งนี้ (อุปกรณ์เกรดมาตราฐาน)
1. หัวพ่นหมอก เเบบพลาสติกที่ผมใช้ ตัวละประมาณ 20 บาทครับ 7 ตัว = 140 บาท (มีหลายเกรดนะครับ เลือกดูเอาตามที่ถูกใจเลยครับ)
2. ท่อPE ผมใช้ขนาด 20มม ถ้าซื้อเเบ่งขาย 20บาทต่อเมตร ใช้ไป 15 เมตร = 300 บาท
3. ตัวข้องอท่อ PE ตัวละไม่เกิน 10 บาทครับ ใช้ไป 5 ตัว 50 บาทครับ
รวมอุปกรณ์ที่จำเป็น 490 บาท
มาถึงอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยจำเป็น เเต่ถ้าจะซื้อไว้ก็ดีครับ งานสวยขึ้น เรียบร้อยขึ้น
4. ตัวเจาะ ซื้อเเบบธรรมดา 100 บาท
5. Cable tie(หนวดกุ้งรัดสายไฟ) อันนี้ซื้อเป็นห่อครับ ขนาดตามรอบของสิ่งของที่เราจะเอาไปยึดติด เเบบยาวที่ผมใช้ ห่อละไม่เกิน 100 บาท มีร้อยกว่าเส้นครับ
6. ข้อต่อเกลียวสำหรับเชื่อมท่อ PE เข้ากับก๊อกสนาม หรือ เครื่องตั้งเวลา ตัวนี้ผมซื้อตัวเเปลงมาไม่เกิน 50 บาทครับ
7. คีม อันนี้คิดว่าน่าจะมีกันอยู่เเล้ว เเต่ถ้าใครไม่มี หายืมไม่ได้ ก็หาซื้อคีมถูกๆมาเเก้ขัดก็ได้ครับ 50 บาทก็สบายขึ้นเยอะ
8. สมอบก ตัวละไม่เกิน 20 บาทครับ ผมใช้ไป 3 ตัว 60 บาทครับ
9. เทปกาว ผมเลือกใช้สีดำเหมือนท่อ PE ครับ 20 บาท
รวมอุปกรณ์ที่จำเป็น เเละ ไม่จำเป็น 830 บาท ครับ
สินค้าทั้งหมดมีขายตามห้างขายวัสดุก่อสร้าง ชั้นนำทั่วไปครับ Home Pro etc...
วิธีทำ ติดตั้ง เเละ เทคนิคที่ใช้
วัดระยะ คำนวณ อุปกรณ์ ที่จะใช้ให้เรียบร้อย ซื้อเผื่อมาเลยนะครับ
เริ่มจากเตรียมท่อ PE ครับ ... วิธีทำให้ท่อคลายตัว ง่ายที่สุด คือ นำท่อ PE ไปตากเเดดสักพัก มันจะเริ่มคลายตัว จะดัดให้ตรงง่ายขึ้น
วางท่อ PE ตามเเนวที่เราต้องการติดไว้กับพื้นก่อน วัดระยะเจาะรูตามที่ต้องการ (ผมเว้น 60เซนติเมตร) เเล้ว ติดหัวพ่นเเบบที่เราชอบ ตามองศาที่เราต้องการ
เจาะรูเสร็จเเล้วก็เอาคีม จับหัวพ่น กดลงเข้ารูตามที่เราเจาะไว้ครับ
เบาเเรง ไม่เจ็บมือ
ยัดลงไปให้สุด เเล้วลองดึงดู ถ้าเเน่นไม่หลุด ถือว่าใช้ได้
นำท่อ PE ที่ติดหัวพ่นเรียบร้อยเเล้ว ยึดติดกับจุดที่เราต้องการ จะใช้ลวด หรือ Cable tie ผูกติดไว้กับจุดที่ต้องการ ผมใช้ Cable tie สีดำ เข้ากับเหล็กสีดำ อยากให้ดูเรียบร้อยขึ้น
ตามข้อต่อต่างๆ ก็รัดให้เเน่นเช่นกันครับ หัวพ่นหมอก เเรงดันในท่อจะสูงทำให้ต้องรัดข้อต่อกับท่อ PE ให้เเน่นด้วยนะครับ (ใครจะใช้ลวดรัดก็ได้ครับไม่ผิดกฎหมายเเต่ลวดเวลาใช้ไปนานๆเเล้วมันจะชอบเป็นสนิมนะครับ)
จุดที่เดินเรียบกับพื้นดิน ผมใช้สมอบกยึดไว้ครับ หน้าตาเจ้าสมอบกสำหรับยึดท่อ PE กับดินครับ (เลือกซื้อให้ถูกขนาดกับท่อ PE นะครับ) ใครจะฝังในดินซ่อนท่อก็เอาที่สะดวกได้เลยครับ
ใครจะต่อท่อ PE เข้ากับก๊อกสนาม เเล้วใช้วิธีเปิดปิดเองก็ทำได้ หรือ จะติดตั้งเข้ากับเครื่องตั้งเวลาเปิด-ปิดน้ำ ก็ใช้ข้อต่อตัวเเปลง 3/4" กับ ท่อ PE เเล้วประกอบร่างได้เลยครับ
ผมเลือกติดกับเครื่องตั้งเวลาระบบโซลินอยวาล์ว ดิจิตอล ตั้งเวลาเปิดปิดได้ 8 โปรเเกรม ตั้งให้เปิดน้ำช่วงกลางวัน ครั้งละ 1-2 นาที เพื่อลดความร้อน รู้สึกได้ว่าห้องเย็นขึ้นเยอะครับ :)
สุดท้าย เปิดน้ำเข้าระบบท่อ ให้เศษท่อที่เจาะ ไหลออก เเล้วพับสาย ความจริงมันจะมีตัวปิดท้ายขาย เเต่ผมไม่ชอบเพราะมันไม่เรียบ เลยใช้วิธีพับ มัดลวด เเล้ว เอาเทปดำ ปิดทับอีกมันจะเรียบกว่าใช้ตัวอุดปิดสาย
เวลาที่ใช้ติดตั้งทั้งหมด ทำคนเดียว ถ้าอุปกรณ์พร้อมใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงครับ เเค่นี้คุณก็สามารถมีระบบพ่นหมอกเเบบประหยัด ลดไอร้อน ลดฝุ่น เพิ่มความชื้นบริเวณที่ต้องการ ในราคาที่ไม่สูงเกินได้เเล้วครับ ^^
เสียดายถ่ายรูปมุมกว้างถ่ายออกมาเเล้วไม่ค่อยเห็นหมอกเท่าไร ><" รูปที่ถ่ายนี้ไม่ได้เปิดปั๊มน้ำอัตโนมัติช่วยนะครับ เเรงดันน้ำประปาช่วงบ่ายอย่างเดียว(ดูเเรงดันจากเกจวัดอยู่ที่ประมาณ 1.5bar ครับ)
คำเเนะนำเพิ่มเติม
- หัวพ่นหมอก จำเป็นต้องใช้น้ำสะอาดเท่านั้น เพราะรูพ่นน้ำมีขนาดเล็กมาก อุดตันได้ง่ายมาก หากน้ำมีตะกอนมาก ควรติดตั้งตัวกรองก่อนนะครับ ไม่งั้นต้องได้เปลี่ยนหัวพ่นบ่อยเเน่ๆ
- ย้ำกันอีกรอบ ระบบพ่นน้ำที่เเนะนำ เน้นประหยัดเเละทำได้เอง เพราะฉนั้นความละเอียดของละอองน้ำที่ออกมา เปียกได้ จะไม่ละเอียดเหมือนระบบที่มีปั๊มเเรงดันสูงควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ท่อเเละข้อต่อทำจากอลูมิเนียมทนเเรงดันสูงไม่เป็นสนิม หัวพ่นทำจากทองเหลืองให้ละอองเล็กสะใจนะครับ
- พยายามหลีกเลี่ยงการเดินสายเป็นระยะทางไกลๆ เเละ มีจุดเชื่อมต่อมาก ท่อ PE เวลาโดนความร้อนเเล้วจะอ่อนตัว หากไม่รัดให้เเน่นเเรงดันน้ำจะดันท่อให้หลุดได้ เพราะฉนั้นเเนะนำให้รัดข้อต่อทุกจุดให้เเน่นเลยนะครับ จะได้ไม่ต้องมานั้งเเก้ทีหลัง
- จะเปลี่ยนจากระบบพ่นหมอก เป็นสปิงเกอร์พ่นน้ำบนหลังคาเเทนก็ได้นะครับ ถ้าเน้นเรื่องลดความร้อนในตัวบ้าน ปรับใช้กันตามสะดวกได้เลยครับ
----- END Review 2016 ------
สำหรับใครที่ต้องการละอองน้ำ เเบบพื้นไม่เปียก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ชุดพ่นหมอกเเรงดันต่ำปั๊ม 12vDC ได้ที่ https://www.watertimerreview.com/p/18
-๐-
"บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของ WaterTimerReview.com ไม่อนุญาตให้ทำการคัดลอกไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า เเต่ยินดีถ้า "เเชร์" เพื่อนำข้อมูลไปใช้สำหรับการศึกษาให้เป็นประโยชน์กับชุมชน เเละ สังคม"
(หากนำข้อมูลไปใช้อ้างอิงรบกวนช่วยให้เครดิตเวปด้วยนะครับ)
-๐-
แนะนำ ส่วนบทความอื่นที่น่าสนใจ
แนะนำเดินระบบรดน้ำต้นไม้ ด้วยตัวเอง (สำหรับมือใหม่) : www.watertimerreview.com/article/109
วิธีคำนวณหัวพ่นจ่ายน้ำ สำหรับบ้านเรือน : www.watertimerreview.com/article/93
เเนะนำการเดินท่อPE สำหรับวางระบบน้ำ : www.watertimerreview.com/article/69
การเดินระบบสปริงเกอร์ Pop Up สำหรับบ้านเรือน : www.watertimerreview.com/article/92
เดินระบบหัวพ่นหมอก ลดความร้อน กรองฝุ่น ด้วยตัวเอง : www.watertimerreview.com/article/35
ระบบน้ำหยด(ท่อไมโคร PE 4มม) เหมาะพื้นที่เล็กๆ : www.watertimerreview.com/article/90
วิธีต่อพวงก๊อกน้ำ แบบไม่ต้องตัดท่อ PVC : www.watertimerreview.com/article/27
เเนะนำกรองเกษตร(กรองตะกอน) : www.watertimerreview.com/article/31
---
บทความเกี่ยวกับหัวพ่นหมอก
แนะนำหัวพ่นหมอกแต่ละประเภท : www.watertimerreview.com/article/101
เลือกหัวพ่นหมอกสำหรับลดฝุ่น : www.watertimerreview.com/article/107
พ่นหมอกยังไงไม่ให้พื้นเปียก : www.watertimerreview.com/article/106
แนะนำการเลือกซื้อชุดปั๊มพ่นหมอก : www.watertimerreview.com/article/120
ตอบทุกข้อความ แต่อาจจะตอบกลับช้าหน่อยนะครับ
(10.00น. – 22.30น.) ขอบคุณครับ _/\_